8 คำถาม ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการจัดไฟ

            ทุกวันนี้ตามท้องตลาดมีหลอดไฟขายหลายชนิดทั้ง สปอร์ตไลท์LED ดาวน์ไลท์LED philips  หลอดไฟปกติ และหลอดไฟLED แต่คุณรู้หรือไม่ ประเภทที่หลากหลายเหล่านี้ ไฟแบบไหนที่จะเหมาะกับการใช้งาน และห้องของคุณ วันนี้เรารวบรวม 8 คำถามเกี่ยวกับเรื่องจัดไฟที่เมื่อรู้คำตอบแล้วจะทำให้คุณเข้าใจเทคนิคการเลือกใช้ไฟภายในบ้านได้ดีมากขึ้น

1. การจัดแสงมีผลโดยตรงต่อดวงตา

         การจัดแสงไฟในแต่ละห้องมีผลต่อสุขภาพดวงตาโดยตรง เพราะไฟที่มืดไปจะทำให้กล้ามเนื้อม่านตาทำงานหนัก แต่ถ้าไฟที่สว่างมากไปก็จะทำให้จอประสาทตาได้รับแสงที่มากเกินไป เพราะฉะนั้นเราควรคำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก หากต้องใช้เพื่อการทำงานแนะนำให้ใช้ไฟที่ให้แสงสว่างมาก แต่หากใช้เพื่อพักผ่อน ตกแต่ง แนะนำให้ใช้ไฟที่ให้แสงสลัวๆ เช่น แสงส้ม หรือ แสงคูลไวท์

2.การจัดไฟทำให้ค่าใช้จ่ายภายในบ้านเพิ่มขึ้นหรือไม่

          หลายคนอาจเข้าใจว่าการออกแบบจัดแสงและการเลือกใช้ไฟในจุดต่างๆ อาจทำให้เรามีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วมันเป็นการป้องกันค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาในภายหลัง เพราะถ้าเราเลือกใช้ไฟให้เหมาะกับจุดประสงค์ของแต่ละห้องแล้ว โอกาสที่เราจะเปลี่ยนหลอดไฟหรือติดตั้งหลอดไฟเพิ่มเติมก็เป็นไปได้ยาก เช่น ดาวไลท์ห้องนอน ที่ให้แสงกำลังดี เหมาะสำหรับการพักผ่อน ดังนั้นการจัดวางการใช้แสงตั้งแต่ครั้งแรกจึงช่วยให้เราใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่าไม่ต้องเสียเงินหลายรอบ  นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย

3.หน้าที่ออกแบบแสงไฟเป็นของใคร

          โดยปกติแล้วคนที่จะทำหน้าที่นี้ได้สมบูรณ์ที่สุดก็คือนักออกแบบแสงไฟ หรือที่เรียกว่า lighting designer เพราะนักออกแบบประเภทนี้จะมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ไฟประเภทต่างๆ ที่เข้ากับการใช้งานในแต่ละส่วนของบ้าน รวมถึงเรื่องความสวยงามด้วย แต่หากเจ้าของบ้านเองมีความรู้ความเข้าใจดีอยู่แล้วก็สามารถออกแบบได้เอง  การเลือกแสงไฟไม่ได้มีผลแค่การใช้งานเท่านั้น แต่ยังมีผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของผู้ใช้อีกด้วย

4.แสงช่วยให้บรรยากาศของห้องเปลี่ยนไป

          การจัดแสงไฟที่เหมาะสมจะทำให้พื้นที่ภายในบ้านเกิดการใช้งานที่คุ้มค่า อีกทั้งยังช่วยเพิ่มบรรยากาศ และอารมณ์ให้กับผู้อาศัยได้มีความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น แต่ถ้าเราอยากให้ห้องของเรามีบรรยากาศที่แตกต่างกันใน 2 ช่วงเวลาก็สามารถทำได้ด้วยการจัดแสงไฟ เพราะเราสามารถเลือกไฟที่ให้แสงสว่างเป็นหลักในห้อง เป็นไฟที่เราใช้ตามปกติทุกวัน และใช้ไฟที่มีสีสันหรือ โคมดาวน์ไลท์ติดลอย ซ่อนตามหลืบฝ้าเพดานหรือผนัง หรือเลือกใช้โคมไฟเปลี่ยนสีสันต่างๆ ที่ตัดกับโทนปกติของห้อง เท่านี้คุณก็จะได้ห้องเดียวกันแต่มีบรรยากาศที่ต่างกัน

5.จะรู้ได้อย่างไรว่าไฟแบบไหนที่มืดเกินไปและไฟแบบไหนที่สว่างเกินไป

          แสงสว่างที่ควรใช้โดยปกติจะมีค่าความสว่างอยู่ที่ 500 ลักซ์ ซึ่งสามารถวัดได้จากเครื่องลักซ์มิเตอร์ หรือสังเกตง่ายๆ จากตัวเองหากมีอาการปวดเมื่อยสายตา แสดงว่าแสงไฟภายในห้องน้อยเกิดนไปจึงทำให้สายตาต้องทำงานหนัก  แต่ถ้าเจอกับแสงไฟที่สว่างเกินไป เราจะรู้สึกแสบตา ดังนั้นเราควรเลือกใช้แสงในระดับที่เหมาะสม

6.ควรเริ่มวางแผนเรื่องแสงไฟในขั้นตอนไหนของการสร้างบ้านใหม่

          ไม่ว่าจะเป็นการสร้างบ้านใหม่หรือการรีโนเวทบ้านเดิมครั้งใหญ่ เราไม่ควรรอจนบ้านใกล้เสร็จแล้ว จึงค่อยมาสนใจเรื่องนี้ แต่เราควรเริ่มลงรายละเอียดตั้งแต่วางแผนจะสร้างบ้าน เพื่อสรุปโทนหลักของแต่ละห้อง เพราะการจัดไฟจะสัมพันธ์กับการวางระบบไฟและสวิตช์ตามจุดต่างๆ เพราะถ้าวางแผนได้ดีตั้งแต่แรกก็จะดีกว่าการเพิ่มหรือแก้ในภายหลัง แต่ถ้าหากเป็นการรีโนเวทบ้านและไม่สามารถแก้ไขการวางระบบไฟและสวิตช์ตามจุดต่างๆ ได้ อาจเลือกมองการจัดแสงไฟตามจุดที่ต้องการจะเน้น หรือสร้างมุมสวยให้แก่ห้อง โดยการเลือกโคมไฟประดับทดแทนโคมดั้งเดิม หรือเพิ่มเติมโคมไฟตั้งพื้น

7.หลอดไฟ LED ช่วยเรื่องการออกแบบแสงภายในบ้านได้อย่างไรบ้าง

          ปัจจุบันมีการพัฒนาและผลิตหลอดไฟ LED ออกมาหลายแบบหลายสี และไม่ได้จำกัดเฉพาะการใช้งานนอกอาคารหรือใช้กับอุปกรณ์อิเล็กโทรนิกส์เท่านั้น แต่หลอดLED ยังช่วยเพิ่มสีสันให้กับห้อง ทำให้ห้องดูไม่เรียบหรือน่าเบื่อจนเกินไป นอกจากนี้หลอดLED ยังสามารถนำไปติดตามบริเวณต่างๆ  แม้กระทั่งในบริเวณที่เรานึกไม่ถึงอย่างบริเวณราวแขวนเสื้อในห้องแต่งตัว หลอดLEDก็สามารถทำให้ห้องสวยและมีมิติมากยิ่งขึ้น

8.อายุของคนในบ้านมีผลต่อการจัดไฟด้วยหรือไม่

          คำถามนี้หลายคนอาจคิดว่าไม่มีผล แต่ความจริงแล้ว มีผลเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งนอกจากห้องส่วนตัวที่ต้องจัดไฟให้เหมาะกับแต่ละคนแล้ว ในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลางก็ต้องดูว่าใครจะใช้ห้องไหนมากกว่า อย่างเช่นห้องนั่งเล่นที่อาจจะมีผู้สูงอายุใช้เป็นประจำ ก็อาจจะต้องเลือกแสงไฟที่มีความสว่างมากพอเพื่อป้องกันสายตาพร่ามัว และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดกับผู้สูงอายุได้

            ดังนั้นก่อนการตกแต่งบ้าน การจัดแสงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะหากไม่มีการวางแผนในเรื่องการจัดแสงก่อน อาจทำให้เราต้องมาเปลี่ยนแปลงและเพิ่มค่าใช้จ่ายมากขึ้น แต่ถ้าหากมีการวางแผนการจัดแสง และ กำหนดรูปร่างของหลอดไฟ เช่น โคมไฟดาวน์ไลท์สี่เหลี่ยม โคมไฟดาวน์ไลท์วงกลม เท่านี้ บ้านของเราก็จะสวยและน่าอยู่มากขึ้น