ชนิดของหลอดไฟที่เราต้องใช้งาน

            ในปัจจุบันตามท้องตลาดมีการขายหลอดไฟหลายประเภท เพราะแสงสว่างถือเป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงชีวิตที่ช่วยในการมองเห็น รองจากปัจจัย 4 และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำรงชีวิต ดังนั้นตามสถานที่ต่าง ๆ จึงมีการติดหลอดไฟหลากหลายชนิด เช่น หลอดกลม หลอดตะเกียบ หลอดฟลูออเรสเซนต์ โคมไฟดาวน์ไลท์สี่เหลี่ยม สปอร์ตไลท์LED โคมไฮเบย์ LED เป็นต้น ซึ่งหลอดไฟแต่ละประเภทก็จะมีการใช้งานและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไปดังนี้

 1. หลอดกลม
          เป็นหลอดที่มีระบบการทำงานของกระแสไฟฟ้าผ่านเส้นลวดเล็ก ๆ ที่อยู่ภายในหลอด เพื่อทำให้เกิดความร้อน ซึ่งความร้อนนี้ จะทำให้เป็นตัวจุดประกายไฟ และให้แสงสว่าง ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลอดไฟประเภทนี้ใช้พลังงานค่อนข้างมาก และเสื่อมสภาพเร็ว โดยมีระยะเวลาในการใช้งานประมาณ 8 เดือน ดังนั้นในตอนนี้ผู้ผลิตจึงหันความสนใจไปที่การผลิตหลอดไฟแบบอื่นแทน ทั้งนี้มีการคาดกันว่าหลอดไฟประเภทนี้จะถูกลดจำนวนการใช้งานลงเรื่อย ๆ

           

 2. หลอดฟลูออเรสเซนต์ 

          หลอดยาวที่กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะถูกนำมาใช้ภายในที่พักอาศัย ซึ่งหลอดไฟประเภทนี้มีระบบการทำงานที่ส่งผ่านประจุอิเล็คตรอนซึ่งเกิดจากขั้วลบผ่านสารเรืองแสงที่ใช้เคลือบหลอดไฟไปยังขั้วบวก เป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานไฟฟ้าค่อนข้างสูง โดยส่วนมากนิยมใช้หลอดแบบ T8 หรือ T5 เพราะมีขนาดของหลอดเล็ก

 3. หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ 

          หลอดคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ หรือที่หลายคนเรียกว่า หลอดตะเกียบ เป็นหลอดที่ถูกนำมาพัฒนา เพื่อใช้ทดแทนหลอดไส้แบบเก่า เพราะหลอดตะเกียบนอกจากจะมีขนาดกระทัดรัดแล้ว ยังเพิ่มระดับความสว่าง และมีอายุการใช้งานที่มากถึง7 ปี หรือเฉลี่ยประมาณ 8,000 ชั่วโมง อีกทั้งยังสามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 4 เท่ากว่าหลอดแบบเดิมโดยทั่วไปหลอดตะเกียบจะมี5 แบบคือ 2U 3U เหมาะสำหรับที่พักอาศัย ส่วน 4U 5U และ 6U เหมาะกับโรงงานหรืออาคารเชิงพาณิชย์

 4. หลอดฮาโลเจน

          หลอดฮาโลเจนเป็นหลอดไฟที่ประกอบด้วยไส้ทังสเตน เมื่อเทียบกับหลอดไฟทั่วไปแล้วหลอดไฟฮาโลเจนมีอายุการใช้งานที่มากกว่าประมาณ 1,500 - 3,000 ชั่วโมง เนื่องจากสามารถทนความร้อนได้ดี   นอกจากนี้ยังให้ความสว่าง และความถูกต้องของสีที่มากกว่าหลอดประเภทอื่น โดยส่วนมากเราจะเห็นหลอดประเภทนี้ตามห้างสรรพสินค้า

 5. หลอด HID 

          หลอด HID หรือมีชื่อเต็มว่า High Intensity Discharge เป็นหลอดที่ให้ระดับความสว่างกว่าหลอดฮาโลเจนประมาณ 3 - 4 เท่า และมีอายุการใช้งานที่นานกว่าหลอดแบบอื่น ๆ ดังนั้นจึงเหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการความสว่างเป็นพิเศษ อย่างเช่น ลานจอดรถ

 6. หลอดไฮบริดฮาโลเจน 

          หลอดไฟฟ้าที่ถูกพัฒนามาจากการผสมผสานข้อดีของหลอดไฟ 3 ประเภทคือ หลอดตะเกียบ หลอดกลม และหลอดฮาโลเจน เพื่อให้มีระดับความสว่างมากขึ้น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในที่พักอาศัย

 7. หลอดไฟ LED

         หลอดน้องใหม่ที่กำลังได้รับความนิยมและขึ้นชื่อเรื่องความประหยัดมากกว่าหลอดประเภทอื่น แต่ข้อเสียของหลอดประเภทนี้คือจะมีราคาที่สูงกว่าหลอดไฟทั่วไป แต่ถ้าหากนำมาเปรียบเทียบเรื่องการใช้งานและคุณภาพของหลอดแล้วถือว่าหลอดไฟแบบ LED เหมาะสมและคุ้มค่ากับราคาเป็นอย่างมาก เพราะหลอดไฟประเภทนี้สามารถเปิด-ปิดได้บ่อยครั้ง ไม่มีการเสื่อมสภาพไปตามจำนวนการกดสวิตช์ นอกจากนี้จะไม่มีการปล่อยรังสียูวี หรือก๊าซอันตราย อีกทั้งยังให้แสงที่สบายตากว่าหลอดชนิดอื่น ที่สำคัญยังช่วยประหยัดพลังงานได้ถึง 70% เมื่อเทียบกับหลอดไส้แบบเดิม ๆ และมีอายุการใช้งานที่นานถึง 50,000 ชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับการใช้งานภายในบ้านตามห้องต่างๆ เช่น ดาวไลท์ห้องนอน

          คงทราบกันดีแล้วใช่ไหมคะ ว่าหลอดไฟแต่ละประเภทมีความแตกต่างทั้งรูปร่าง ระบบการทำงาน และการใช้งานอย่างไร ดังนั้นในการเลือกซื้อหลอดไฟนอกจากจะพิจารณาราคาของหลอดไฟแล้ว เรายังควรต้องคำนึงถึงอายุการใช้งาน และความเหมาะสมของโคมดาวน์ไลท์ติดลอย กับพื้นที่ที่จะนำไปติดตั้งด้วย เพื่อให้แสงสว่างที่เพียงพอและเหมาะสมกับความต้องการ ไม่สลัวหรือสว่างจ้าจนเกินไป จนกระทบต่อสายตาของเรา