ประเภทของแสงที่ใช้ออกแบบภายในและการเลือกใช้สีของโคมดาวน์ไลท์LED

        แสงสว่างถือเป็นสิ่งสำคัญที่เราจะเป็นต้องคำนึงถึง เนื่องจากแสงสว่างมีผลงต่อการทำงาน ระบบสายตา บรรยากาศภายในอาคาร และคุณประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย โดยทั่วไปแล้วในการออกแบบบ้านนั้น หรนึ่งสิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยคือการออกแบบแสง ดังนั้นเราควรเลือกรูปแบบของโคมไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น เลือกซื้อดาวน์ไลท์ห้องนอนเพื่อนำมาติดตั้งภายในห้องนอน

         การให้แสงหลัก คือ การออกแบบและจัดวางแสงสว่างเพื่อให้เกิดประโยชน์และเลือกใช้โคมดาวน์ไลท์ติดลอยเหมาะสมกับการใช้งานมากที่สุด โดยสามารถแบ่งออกได้เป็นสามประเภทย่อยๆ คือ ประเภทแรก แสงสว่างเฉพาะที่ (Localized Lighting) เป็นแสงสว่างที่ส่องเฉพาะจุด ซึ่งแสงที่ได้จะไม่ส่องไปยังส่วนที่ไม่ต้องการ

          การให้แสงรอง คือ การออกแบบให้ดาวน์ไลท์LEDมีแสงสว่างแบบนี้จะไม่ได้มีไว้เพื่อใช้งานแต่จะมีไว้เพื่อใช้สร้างบรรยากาศ อารมณ์ และความรู้สึก ให้กับสถานที่ต่างๆ โดยการออกแบบแสงรองนี้มีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น แสงสว่างแบบส่องเน้น (Accent Lighting) การให้แสงแบบนี้เป็นการเน้นแสงที่บริเวณที่ต้องการสร้างจุดเด่น เช่น ตู้โชว์ เป็นต้น แสงสว่างตกแต่ง (Decorative Lighting)

          ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นการใช้แสงสว่างแบบใดก็ควรมีการออกแบบไว้ก่อน เพราะหากสถานที่ใดที่ไม่มีการออกแบบแสงสว่าง ก็จะทำให้แสงไฟเหล่านั้นใช้งานผิดประเภทส่งผลให้ทำงานหนักและสิ้นเปลืองพลังงาน เช่น การติดตั้งโคมดาวน์ไลท์ 6 นิ้ว ในห้องที่แคบและเล็ก จึงทำให้ได้แสงสว่างที่จ้าเกินไป หากต้องใช้แสงในบริเวณนี้ในการทำงานอาจทำให้สายตาเกิดความพร่ามัวได้

          ดังนั้นควรเลือกใช้ดาวน์ไลท์ LED โคมดาวน์ไลท์ติดลอย ให้ถูกกับการใช้แสง และถูกกับบริเวณของห้อง เพื่อความคุ้มค่าและเหมาะสมกับการใช้งาน       

สีของแสงกับการเลือกใช้ดาวน์ไลท์ LED

            ดาวน์ไลท์ LED โคมไฟขนาดเล็กที่กำลังถูกนำมาใช้ตกแต่งภายในที่พักอาศัย และอาคารสำนักงาน โดยนิยมนำมาติดตั้งภายในห้องนอน ห้องประชุม ตามทางเดิน  ด้วยเหตุที่ว่าดาวน์ไลท์ LED มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกใช้ เช่น โคมดาวน์ไลท์สี่เหลี่ยม โคมดาวน์ไลท์วงกลม จึงทำให้ดาวน์ไลท์ LED สามารถนำมาใช้ในสถานที่ต่างๆได้อย่างหลากหลาย ไม่เพียงเท่านี้ดาวน์ไลท์ LED ยังมีกำลังวัตต์และขนาดของที่หลากหลายสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่ต่างๆได้

            นอกจากนี้ดาวน์ไลท์ LED ยังมีความแตกต่างในเรื่องสีของแสงให้เลือกถึงสามรูปแบบด้วยกัน ดังนี้

      แบบแรกคือ ดาวน์ไลท์ LED แสงส้มหรือสีวอร์มไวท์ (Warm white) มีค่าอุณหภูมิสีของแสงประมาณ 3,000 เคลวินจะให้แสงออกโทนสีส้ม ซึ่งเป็นสีที่อบอุ่น เหมาะสำหรับการนำมาใช้เพื่อพักผ่อน เช่น การนำดาวน์ไลท์ LED มาเป็นดาวน์ไลท์ห้องนอน หรือเอามาติดตั้งในห้องนั่งเล่น  

      แบบที่สองคือ ดาวน์ไลท์ LED แสงฟ้าหรือสีคูลไวท์ (Cool white) มีค่าอุณหภูมิสีของแสงประมาณ 3,000-4,500  เคลวิน จะให้แสงที่มีการผสมผสานระหว่างแสงสีขาวและแสงสีส้ม ซึ่งแสงของดาวน์ไลท์ LED รูปแบบนี้จะให้โทนสีที่ดูสบายตา สามารถนำมาติดตั้งเพื่อให้แสงสว่างขณะทำงานและเพื่อการพักผ่อน

      แบบสุดท้ายคือ ดาวน์ไลท์ LED แสงขาวหรือสีเดย์ไลท์ (Day light) มีค่าอุณหภูมิสีของแสงประมาณ 4,500-6,500 เคลวิน จะให้แสงสีขาว มีความสว่างเหมาะสำหรับทำงาน ซึ่งแสงสีนี้จะมีความใกล้เคียงกับแสงของธรรมชาติ เพราะฉะนั้นจึงมีค่าความถูกต้องของแสงสูงและมากกว่าดาวน์ไลท์ LED แบบอื่น

            จุดเด่นของดาวน์ไลท์ LED ยังไม่หมดเท่านี้ เพราะจากความนิยมในช่วงหลายปีที่ผ่านมาทำให้ในปัจจุบันมีผู้ผลิตดาวน์ไลท์ LED เพื่อนำมาขายตามท้องตลาดอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบหลากหลายยี่ห้อทั้ง ดาวน์ไลท์ LED Philips ดาวน์ไลท์ LED EVE และดาวน์ไลท์ LED ยี่ห้ออื่นๆ โดยแต่ละยี่ห้อก็จะมีลักษณะ รูปแบบ ขนาด ราคา ที่แตกต่างกันไป ซึ่งผู้บริโภคสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการ